ค่ำคืนแห่งศึกฟุตบอล ลา ลีกา สเปน กลายเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์แห่งความยิ่งใหญ่ของ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด (Real Madrid) ที่โชว์ฟอร์มสุดร้อนแรงเปิดสนามซานติอาโก้ เบร์นาเบว ถล่ม บาเลนเซีย (Valencia) ไปแบบขาดลอย 4-0 เกมนี้ไม่เพียงเป็นสามแต้มสำคัญที่ช่วยให้ทีมของ ชาเบียร์ อลอนโซ่ ยึดตำแหน่งจ่าฝูงได้อย่างเหนียวแน่น แต่ยังเป็นการประกาศอย่างชัดเจนว่าพวกเขาพร้อมแล้วสำหรับการไล่ล่าความสำเร็จทั้งในประเทศและเวทียุโรปอีกครั้ง
ก่อนเกมเริ่ม เสียงเพลง “Hala Madrid” ดังสนั่นทั่วสนามที่แน่นขนัดด้วยแฟนบอลกว่า 80,000 ชีวิต บรรยากาศในค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยความคาดหวัง เพราะบาเลนเซียถือเป็นทีมที่ขึ้นชื่อเรื่องเกมรับเหนียวแน่นและการเล่นสวนกลับที่รวดเร็ว เรอัล มาดริดจำเป็นต้องพิสูจน์ว่าพวกเขายังคงมีพลังแห่ง “เครื่องจักรสีขาว” ที่พร้อมบดขยี้ทุกทีมที่กล้ามาเยือน
เพียงเสียงนกหวีดเริ่มเกมได้ไม่ถึงสิบนาที มาดริดก็แสดงความเหนือชั้นทันที พวกเขาครองบอลได้มากกว่า 70% และบีบเกมตั้งแต่แดนของคู่แข่ง การประสานงานระหว่าง จู๊ด เบลลิงแฮม (Jude Bellingham), วินิซิอุส จูเนียร์ (Vinícius Júnior) และ โรดรีโก้ โกส (Rodrygo Goes) สร้างความปั่นป่วนให้แนวรับของบาเลนเซียอยู่ตลอดเวลา
นาทีที่ 13 ความพยายามของเจ้าบ้านก็เป็นผล เมื่อโทนี่ โครสจ่ายบอลทะลุแนวรับให้วินิซิอุสหลุดเข้าเขตโทษ ก่อนที่เจ้าตัวจะล็อกหลบกองหลังหนึ่งจังหวะแล้วซัดด้วยขวาเสียบเสาแรกอย่างเฉียบขาด เรอัล มาดริดขึ้นนำ 1-0 ท่ามกลางเสียงเฮกึกก้องทั่วเบร์นาเบว ประตูนี้ไม่เพียงปลดล็อกให้ทีมเล่นได้อย่างผ่อนคลาย แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจและความเฉียบคมของวินิซิอุสที่กำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์ม
หลังจากนั้นเพียง 10 นาที เจ้าบ้านก็มาบวกเพิ่มอีกหนึ่งประตู จากจังหวะที่เบลลิงแฮมแทงทะลุช่องสุดสวยให้โรดรีโก้หลุดเข้าไปก่อนซัดเต็มข้อ บอลพุ่งผ่านมือผู้รักษาประตูบาเลนเซียเข้าไปตุงตาข่ายอย่างงดงาม มาดริดหนีห่าง 2-0 และควบคุมเกมไว้ได้ทั้งหมด
บาเลนเซียพยายามตั้งเกมสวนกลับ แต่แนวรับของมาดริดที่นำโดย ดาวิด อลาบา และ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ยืนตำแหน่งได้อย่างยอดเยี่ยม แถมยังมี ติโบต์ กูร์กตัวส์ ที่โชว์ฟอร์มเซฟได้อย่างมั่นใจทุกจังหวะ ทำให้เกมรุกของทีมเยือนไม่มีโอกาสจบสกอร์ใกล้เคียงเลย
ช่วงกลางครึ่งแรก เรอัล มาดริดเริ่มผ่อนจังหวะเกมลงเล็กน้อยเพื่อรักษาพลัง แต่ยังคงครองบอลและหาช่องเข้าทำอย่างต่อเนื่อง โครสและบัลเบร์เด้คุมจังหวะได้ยอดเยี่ยม การต่อบอลสั้นและการเคลื่อนที่อย่างมีระเบียบทำให้ทีมเยือนแทบจับทางไม่ทัน
แฟนบอลที่ติดตามเกมนี้ผ่าน เล่นคาสิโนออนไลน์กับ ยูฟ่าเบท เว็บตรง มั่นคง ปลอดภัย ระบบทันสมัยที่สุด สมัครง่าย ไม่ผ่านเอเย่นต์ พร้อมโปรโมชั่นเด็ดทุกวัน ต่างชื่นชมในความสมดุลของเรอัล มาดริดชุดนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยพลังของนักเตะรุ่นใหม่ผสมกับประสบการณ์ของแข้งเก๋าอย่างลงตัว การเล่นของพวกเขาไม่เพียงดุดันแต่ยังมีความนิ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทีมระดับแชมป์ต้องมี
ครึ่งหลังเริ่มต้นขึ้นด้วยภาพที่แฟนบอลคุ้นเคย — เรอัล มาดริดเดินหน้าบุกอย่างไม่หยุดพัก เพียงนาทีที่ 49 พวกเขาก็มาได้ประตูที่สามจากจังหวะสวนกลับเร็ว เบลลิงแฮมฉีกออกทางซ้ายก่อนจ่ายให้วินิซิอุสที่วิ่งทะลุขึ้นมาพอดี ก่อนซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งเสียบเสาอย่างเด็ดขาด 3-0 และเป็นประตูที่สองของเจ้าหนูชาวบราซิลในเกมนี้
เกมนี้แสดงให้เห็นชัดว่าความสัมพันธ์ในแนวรุกของมาดริดกำลังอยู่ในช่วงที่ลงตัวที่สุด วินิซิอุสกับโรดรีโก้เข้าใจกันทุกจังหวะ การเคลื่อนที่แบบสลับตำแหน่งของทั้งคู่สร้างปัญหาให้แนวรับบาเลนเซียจนจับไม่ทัน ขณะที่เบลลิงแฮมยังคงทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างแดนกลางกับแนวรุกได้อย่างยอดเยี่ยม
นาทีที่ 64 เจ้าบ้านยังไม่พอใจ พวกเขาบวกเพิ่มเป็น 4-0 จากจังหวะที่วินิซิอุสลากตัดเข้าในก่อนเปิดไปเสาไกลให้โรดรีโก้เข้ามาซัดจ่อ ๆ ไม่เหลือซาก เป็นประตูที่สองของโรดรีโก้ในเกมนี้เช่นกัน กลายเป็นค่ำคืนแห่งความสมบูรณ์แบบของแนวรุกบราซิลทั้งคู่
หลังจากนั้นมาดริดยังคุมเกมได้อย่างรัดกุม แต่ก็ไม่ได้หยุดสร้างสรรค์โอกาส นาทีที่ 75 เบลลิงแฮมเกือบทำประตูเพิ่มได้จากการยิงไกลหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งเฉียดเสาออกไปนิดเดียว เสียงแฟนบอลส่งเสียงเชียร์อย่างต่อเนื่องพร้อมตะโกนชื่อของเจ้าหนูวัย 20 ปีที่กำลังกลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของราชันชุดขาว
บาเลนเซียแม้จะพยายามเปลี่ยนแผนด้วยการส่งกองหน้าเพิ่ม แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนทิศทางเกมได้ เพราะแนวรับของมาดริดยังเหนียวแน่นและทำงานกันอย่างมีระบบ การประสานระหว่างกองหลังและกองกลางถือเป็นหนึ่งในจุดแข็งที่ทำให้ทีมชุดนี้แตกต่างจากฤดูกาลก่อนอย่างสิ้นเชิง
ระหว่างเกม ชาเบียร์ อลอนโซ่ ที่รับหน้าที่คุมทีมแทนคาร์โล อันเชล็อตติในช่วงนี้ แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์อันยอดเยี่ยม เขาคุมจังหวะเกมข้างสนามด้วยความนิ่งและมั่นใจ การสั่งการของเขาเรียบง่ายแต่ได้ผล นักเตะทุกคนดูเข้าใจบทบาทของตัวเอง และนั่นคือเหตุผลที่มาดริดสามารถเล่นได้อย่างสมดุลทั้งเกมรุกและรับ
สื่อสเปนต่างพร้อมใจกันยกย่องเรอัล มาดริดชุดนี้ว่าเป็น “ทีมที่กลับมามีพลังแบบยุคกาลาติกอสอีกครั้ง” เพราะพวกเขาไม่ได้อาศัยแค่ชื่อเสียง แต่เล่นด้วยระบบที่แข็งแกร่งและความสามัคคีในทีม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ราชันชุดขาวดูน่ากลัวกว่าที่เคย
หลังจบเกม วินิซิอุสให้สัมภาษณ์ด้วยรอยยิ้มว่า “มันคือคืนที่สมบูรณ์แบบสำหรับเรา ทุกคนเล่นเพื่อกันและกัน ผมกับโรดรีโก้ต่างผลัดกันสร้างโอกาส เรารู้ว่าแฟน ๆ คาดหวังอะไรจากเรอัล มาดริด และเราจะไม่ทำให้พวกเขาผิดหวัง”
ในขณะที่โรดรีโก้กล่าวเสริมว่า “การยิงสองประตูในเกมใหญ่แบบนี้มันสุดยอดมาก แต่สิ่งสำคัญคือชัยชนะของทีม เราต้องการคว้าแชมป์ทุกถ้วยในฤดูกาลนี้”

แฟนบอลทั่วโลกต่างตื่นตะลึงกับฟอร์มอันโหดเหี้ยมของเรอัล มาดริด โดยเฉพาะผู้ติดตามข่าวผ่าน สนใจเริ่มต้นเดิมพันออนไลน์กับเว็บตรง สมัคร UFABET วันนี้ รับสิทธิพิเศษมากมาย ทั้งโบนัสแรกเข้าและระบบฝากถอนออโต้ รวดเร็ว ปลอดภัย 100%ที่มองว่าเกมนี้คือ “สัญญาณเตือน” ต่อทุกทีมในยุโรปว่ามาดริดกลับมาสู่จุดที่พวกเขาเป็นทีมที่น่ากลัวที่สุดอีกครั้ง ทั้งความเฉียบขาดในการเข้าทำและเกมรับที่แข็งแกร่งจนแทบไม่มีจุดอ่อน
ชัยชนะ 4-0 ครั้งนี้ส่งผลให้เรอัล มาดริดเก็บเพิ่มเป็น 31 คะแนนจาก 12 นัด ยึดตำแหน่งจ่าฝูงของตารางต่อเนื่อง พร้อมผลต่างประตูที่ยอดเยี่ยม พวกเขายังรักษาสถิติไม่แพ้ใครในลีก และถือเป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในซีซั่นนี้
นักวิเคราะห์จาก Marca และ AS ต่างออกมาชื่นชมการจัดการทีมของอลอนโซ่ โดยเฉพาะการสร้างความสมดุลระหว่างเกมรุกและรับ รวมถึงการปลุกฟอร์มของโรดรีโก้และวินิซิอุสให้กลับมาอยู่ในระดับสูงสุดอีกครั้ง ซึ่งหากทั้งคู่ยังรักษามาตรฐานนี้ได้ โอกาสที่มาดริดจะคว้าแชมป์ลีกและยุโรปในฤดูกาลเดียวก็ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันเลย
นอกจากนี้ เบลลิงแฮมที่แม้จะไม่มีชื่อทำประตูในเกมนี้ แต่ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของทีมในการเชื่อมเกมและสร้างโอกาส เขาได้รับคำชมจากเพื่อนร่วมทีมและสื่อว่าคือ “ตัวเปลี่ยนเกมที่แท้จริง” ที่ทำให้ระบบของมาดริดดูมีชีวิตชีวามากกว่าเดิม
สำหรับแฟนบอลราชันชุดขาวทั่วโลก เกมนี้คือ “ค่ำคืนแห่งความสุข” ที่สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ของสโมสรแห่งศตวรรษ ไม่ว่าจะผ่านมากี่รุ่น เรอัล มาดริดยังคงเป็นทีมที่ไม่ยอมลดมาตรฐาน และพร้อมจะเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่เสมอ
ท้ายที่สุด ผู้ที่ติดตามการแข่งขันและวิเคราะห์เกมผ่าน เข้าถึงทุกการเดิมพันได้ง่ายผ่าน ทางเข้า UFABET ล่าสุด เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ รองรับมือถือทุกระบบ เข้าเล่นได้ตลอด 24 ชั่วโมง ต่างเห็นพ้องกันว่า ชัยชนะเหนือบาเลนเซียในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงสามแต้มธรรมดา แต่มันคือ “การส่งสารแห่งความมั่นใจ” จากเบร์นาเบวสู่ทั้งลีกและยุโรป ว่าทีมสีขาวจากเมืองหลวงสเปนกำลังกลับมาสู่ยุครุ่งเรืองอีกครั้ง